ออกแล้วๆๆๆๆๆๆ เหอๆ ทำเหมือนเรื่องตื่นเต้นสุดๆ ที่อยากจะบอกคือ ubuntu PE edition 9.12 ออกแล้ว มีอะไรเพิ่มเติมและอัฟเดท kernel ใหม่ด้วยนะ แก้หลายๆ จุดที่บกพร่องไปในเวอร์ชั่นก่อน base ก็มาจาก ubuntu 9.10 ครับ แต่เวอร์ชั่นของตัวนี้ทำเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ สภาพแวดล้อมต่างๆ ทำให้คนไทยที่เคยหรือไม่เคยใช้ ubuntu มาก่อนสามารถใช้งานลีนุกซ์ได้ง่ายๆ และทำความคุ้นเคยได้ง่าย เหมาะมากครับ สำหรับคนที่เริ่มใช้ linux ใหม่ ๆ ไปอ่านรายละเอียดและดาวน์โหลดได้เลยครับ
Ubuntu 9.12(PE)Prompt Edition
เลขเวอร์ชั่น 9.12 นั้น 9 ความหมายคือปี 2009 ส่วน .12 ก็คือเดือน 12 (ธันวาคม) ที่ได้จัดและรีลีสรุ่นดังกล่าว …
Ubuntu 9.12(PE)Prompt Edition จากการรีลิส PE9.11 พบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับดิสเพลย์การ์ดบางรุ่น ประกอบกับ Ubuntu 9.10 (ต้นฉบับ) ได้มีการปรับปรุงแก้ไขแพกเกจใหม่จำนวนมาก จากการทดสอบพบว่ามีความเร็วและเสถียรค่อนข้างดี จึงได้มีการจัด PE9.12 ขึ้นมา สำหรับรุ่นนี้มีการจัดทำ PE9.12 ออกมา 2 รุ่น คือ รุ่น CD(Basic) กับ รุ่น DVD (Advanced) ...
Ubuntu 9.12(PE)Prompt Edition เป็นลินุกซ์เดสก์ทอปที่พร้อมใช้งาน โดยการนำ Ubuntu(ต้นฉบับ) ลินุกซ์ดิสโทรยอดนิยมมาทำการ ปรับแต่ง ปรุงแต่ง เพิ่มเติม ให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานคนไทย ภาษาไทยที่สมบูรณ์และสวยงาม ไลบรารีที่จำเป็นกับงานด้านต่างๆ โดยเฉพาะงานด้านมัลติมีเดียสามารถใช้งานได้ทันที หรือแพกเกจอื่นๆที่น่าสนใจและเป็นที่นิยม ก็ได้ถูกติดตั้งเพิ่มเติมกว่าต้นฉบับดั้งเดิมมากมาย …
Ubuntu 9.12(PE)Prompt Edition คือผลผลิต จากประสบการณ์ของผู้จัดทำ และข้อมูลที่ผู้จัดทำได้เก็บเกี่ยวจากผู้รู้หลายๆท่านผ่านช่องทาง เว็บไซด์/เว็บบอร์ด/บล็อก ต่างๆ ใครใช้ Ubuntu รุ่นนี้ก็เหมือนกับการใช้ลินุกซ์ที่ผ่านการปรับแต่งจากประสบการณ์ที่ได้ผลดี จากผู้รู้หลายๆท่าน ...
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ Ubuntuclub
และสามารถดาวน์โหลดได้ที่ข้อมูลตรงนี้ครับ
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนพื้นที่ดาวน์โหลด
ขอบคุณ nytes.net และ คุณ sourcode น้องมนัสวิน ที่ช่วยดำเนินการ
http://mirror.nytes.net:81/linux/clubuntu/community/prompt/9.12/
ขอบคุณ aphorist ที่ร่วมสนับสนุนพื้นที่ดาวน์โหลด ...
http://www.pasworld.co.th:81/ubuntu/ubuntu_912_pe/
ขอบคุณ อาจารย์วิทยา(wd) เป็นกัลยาณมิตรที่เอื้อเฟื้อเสมอมา จัดทำ Tracker เพื่อ Bittorrent ...
CD ลิงค์นี้ http://www.thaitux.info/files/bt/ubuntu_9.12CD_prompt_edition.iso.torrent
DVD ลิงค์นี้ http://www.thaitux.info/files/bt/ubuntu_9.12DVD_prompt_edition.iso.torrent
ตรวจสอบไฟล์ ลิงค์นี้ http://www.thaitux.info:6969
สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านอินเตอร์เน็ต หรือ ต้องการความแน่นอนของ ISO ตอนนี้ ShopIT ก็มีบริการจำหน่าย PE9.12 แล้วเช่นกัน ...
http://shop.ubuntuclub.com/catalog/ubuntu
วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ส.ค.ส ส่งความสุขส่งท้ายปีเก่า ด้วยธรรมะดีๆ จากท่าน ว.วชิรเมธี
บทความนี้ผมเขียนขึ้นก่อนที่จะถึงวันปีใหม่ด้วยซ้ำ ตอนแรกยังคิดอยู่น๊านนานว่าจะหาอะไรมาเขียนดีก่อนวันปีใหม่ สิ่งดีๆ สิ่งที่ทำให้ทุกคนเบิกบาน และมีความสุข ผมนึกได้สิ่งเดียวก็คือธรรมะ ไม่มีอะไรในโลกนี้แล้วที่จะดีเท่ากับพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนเรามากว่า 2500 ปี เป็นสิ่งที่จริงแท้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย ความจริงแล้วเป็นเพราะเพื่อนผมเค้าเดินมาหาแล้วเอาหนังสือของ ท่าน ว.วชิรเมธี มาให้ ซึ่งมันก็เหมือนรู้ใจว่าผมชอบอ่านหนังสือของท่านอยู่แล้ว ก็เลยนึกขึ้นได้เลยว่า เออ เอาธรรมะของท่าน ว. นี่แหละส่งเป็น ส.ค.ส ให้กับทุกๆ คนในโลกนี้ดีกว่า สิ้นปีเก่าเริ่มปีใหม่แล้ว ก็ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของทุกๆ ท่าน คนที่จนก็ขอให้รวย คนที่รวยก็ขอให้รวยๆยิ่งๆ ขึ้นไป คนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้กับสิ่งต่างในชีวิตในวันข้างหน้าต่อๆ ไปด้วย มีความสุขกันมากๆ นะครับทุกๆ ท่าน และสวัสดีปีใหม่ ปี พ.ศ. 2553
ธรรมะดีๆ จากท่าน ว.วชิรเมธี รวบรวมจากหลาย ๆเวปนะครับ ส่งความสุข ความดี ให้กับทุก ๆคน กดที่รูปเพื่อขยายให้อ่านได้ง่ายขึ้นนะครับ
ธรรมะดีๆ จากท่าน ว.วชิรเมธี รวบรวมจากหลาย ๆเวปนะครับ ส่งความสุข ความดี ให้กับทุก ๆคน กดที่รูปเพื่อขยายให้อ่านได้ง่ายขึ้นนะครับ
Man on the moon
มีหนังเรื่องหนึ่งชื่อเรื่องว่า Man on the moon ชื่อไทยว่าอะไรผมจำไม่ได้แล้ว ประมาณ คนจะดังใครก็ฉุดไม่อยู่ หนังเล่าเกี่ยวเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่อเป็นดารา แต่ตัวตนเค้าจริงๆ ไม่เคยสัมผัสกับความเป็นดาราเลยทั้งๆที่อยากจะเป็นแทบตาย ความพยายามดิ้นรนต่อสู้ทุกอย่างในตัวเค้าเพื่อที่จะแสดงให้คนอื่นรับรับรู้ว่าเค้าก็เป็นนักแสดงที่เก่งกาจ วันหนึ่งก็ทำให้เค้าประสบความสำเร็จ หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องในแบบถ้าใครไม่ชอบหนังแบบนี้ก็คงหลับตั่งแต่ยังไม่ถึงครึ่งเรื่องแล้วล่ะครับ แต่ผมกลับชอบ ประการหนึ่งก็เพราะว่าผมชอบจิมแครี่มาก เป็นดาราในดวงใจผมเลยตั่งแต่เรื่อง true man show เดี๋ยวไว้จะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง อย่างที่สองมุขตลกในเรื่องนี้มันตลกร้ายครับ ในเรื่องจิมแครี่เล่นเป็นคนฝืดมาก ทำอะไรก็ฝืดไปหมด แต่ความฝืดของเค้ากลับเป็นสิ่งที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องผิดคลาดอย่างแรง ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องหนึ่งในใจผมเรื่องหนึ่งเลย แต่...วันนี้ผมไม่ได้จะมาพูดถึงเรื่องนี้ครับ ผมอยากจะเขียนอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า man on the moon เหมือนกัน มันเป็นเพลงของวงหนึ่งที่ผมชอบเพลงนี้เป็นพิเศษ แต่กลับเป็นว่า ผมไม่เคยเข้าใจความหมายของเพลงนี้เลย วันนี้เราเลยมา learn english from songs กันอีกรอบเป็นไง มาช่วยกันแปลเพลงนี้กัน Man on The Moon จากวง REM
เพลงนี้ผมฟังครั้งแรกเมื่อตอนอยู่ประมาณ ปวช. เป็นช่วงที่เพลงประเภทเอาเธอมาถีบ เอ้ย.. อัลเทอเนทีพ Alternative กำลังดังมาก ไม่ว่าจะเป็นพลงของวง Green day หรือเช่น Gogodoll และอื่นๆ เมืองไทยตอนนั้นก็มีเยอะแยะที่ออกมาเป็นอัลเทอกับเค้า ก็เช่นวงป้าง นครินกิ่งศักดิ์ วง Loso ที่ดังโคตรๆ ในตอนนี้ แต่ตอนแรกๆผมว่ามันออกจะเสี่ยวๆ อ้าว..จริงๆนะ อย่างวง loso เนี่ยผมคิดว่าตอนแรกอ่ะ ที่ดู MV เพลงแรกคือเพลง เธอ อ่ะ ที่ร้อง "เธอ เธอ เธอ ไม่มีใครเหมือนเธอ เธอ เธอ" ผมคิดในใจเลย ดับแน่วงนี้ เสี่ยวสุดๆ แต่ก็น่ะ ดังซะงั้น ตอนนี้กลายเป็น idol ของใครๆ ไปหมดซะแล้ว กลับมาเข้าเรื่องต่อกับวง REM ที่ผมฟังเพลงเค้าที่ชื่อเพลง Man on the Moon เพลงเนี้ย ผมดู MV ครั้งแรกในรายการตอนดึกมากรายการหนึ่ง ผมฟังครั้งแรกแล้วผมก็ชอบเลย ทั้งๆ ที่ไม่รู้หรอกว่ามันแปลว่าอะไร เวลาผ่านมาเนิ่นนานมาก เพิ่งจะมานึกออกว่าอืม มารู้ความหมายของเพลงนี้กันดีกว่า แปลกันงูๆ ปลาๆ เอานี่แหละ อย่างน้อย ก็จะได้รูซะทีว่าคนเขียนเพลงที่ดีๆ แบบนี้ เค้าบอกอะไรกับเรา
เนื้อเพลง Man on the Moon
Mott the hoople and the game of life. yeah, yeah, yeah, yeah
Mott the Hoople และเกมส์แห่งชีวิต อืมๆๆๆๆ
Andy kaufman in the wrestling match. yeah, yeah, yeah, yeah
แอนดี้ คูฟแมน กับการแข่งขับมวยปล้ำ อืมๆๆๆๆ
Monopoly, twenty one, checkers, and chess. yeah, yeah, yeah, yeah
เกมส์เศรษฐี ยี่สิบเอ็ด หมากฮอส และหมากรุก อืมๆๆๆๆ
Mister fred blassie in a breakfast mess. yeah, yeah, yeah, yeah
คุณเฟรด บลาสซิล ในรายการอาหารเช้า เยเยเยเย
Let’s play twister, let’s play risk. yeah, yeah, yeah, yeah
มาเล่นกวัดแกว่ง มาเล่นกันแบบเสี่ยงๆ เยเยเยเย
See you heaven if you make the list. yeah, yeah, yeah, yeah
คุณเห็นสวรรค์แน่ถ้าคุณทำอันดับได้ เยเยเยเย
Hey andy, did you hear about this one? tell me, are you locked in the punch?
เฮ..แอนดี้ เคยได้ยินเรื่องพวกนี้ไหม บอกฉันสิ คุณถูกปิดหูปิดตาหรือเปล่า
Hey andy, are you goofing on elvis? hey baby, are we losing touch?
เฮ้..แอนดี้ นายแดนซ์แบบเอลวิสได้ไหมล่ะ หรือว่าเสียสูญไปซะแล้ว
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
ถ้ามีความเชื่อมั่น ก็สำเร็จได้ (เหมือนการส่งคนไปดวงจันทร์ ตามความเห็นของผม)
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ถ้าคุณเชื่อมั่น ไม่มีอะไรทำให้คุณกลัว จนต้องขนลุก
Moses went walking with the staff of wood. yeah, yeah, yeah, yeah
โมเซส เดินก้าวไปด้วยไม้เท้าวิเศษ เยเยเยเย
Newton got beaned by the apple good. yeah, yeah, yeah, yeah
นิวตั้น คิดออกด้วยเพียงลูกแอปเปิ้ล เยเยเยเย
Egypt was troubled by the horrible asp. yeah, yeah, yeah, yeah
อียิปต์ เจอปัญหาด้วยงูเห่าที่น่ากลัว เยเยเยเย
Mister charles darwin had the gall to ask. yeah, yeah, yeah, yeah
คุณชาลี ดาวิน ข่มขื่นที่จะถาม เยเยเยเย
Hey andy, did you hear about this one? tell me, are you locked in the punch?
เฮ้..แอนดี้ คุณเคยได้ยินเรื่องพวกนี้ไหม บอกผมสิ คุณถูกปิดหูปิดตาเหรอ
Hey andy, are you goofing on elvis? hey baby, are you having fun?
เฮ้..แอนดี้ คุณดิ้นแบบเอลวิสไหม ที่รัก คุณสนุกไหมล่ะ.
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
ถ้าคุณเชื่อมั่น คุณก็ทำสำเร็จได้
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ถ้าคุณเชื่อมั่น ไม่มีอะไรต้องกลัวจนทำให้คุณต้องขนลุก
Here’s a little agit for the never-believer. yeah, yeah, yeah, yeah
นี่ไงความ
Here’s a little ghost for the offering. yeah, yeah, yeah, yeah
นี่ไง ข้อเสนอของเหล่าผีสิง เยเยเยเย
Here’s a truck stop instead of saint peter’s. yeah, yeah, yeah, yeah
นี่ไงรถบรรทุกหยุดนิ่งที่ saint peter's เยเยเยเย
Mister andy kaufman’s gone wrestling (wrestling bears). yeah, yeah, yeah, yeah
คุณแอนดี kaufman ลงไปปล้ำแล้ว เยเยเยเย
Hey andy, did you hear about this one? tell me, are you locked in the punch?
เฮ้.. แอนดี้ คุณเคยได้ยินเรื่องพวกนี้ซักครั้งไหม บอกฉันสิ ว่าคุณเอาอยู่ไหม
Hey andy, are you goofing on elvis? hey baby, are we losing touch?
เฮ้.. แอนดี้ นายดิ้นเหมือนเอลวิสได้ไหมละ คุณเสียสูญไหม
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
ถ้าคุณเชื่อมั่น คุณก็ผ่านมันไปได้
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ถ้าคุณเชื่อมั่น ไม่มีอะไรต้องกลัว
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ต้องบอกก่อนนะครับ ผมแปลตามที่ผมคิดและรู้สึกจากทำนองเพลงและจากคำศัพท์ ผมไม่ได้แปลแบบตรงๆ เหมือน copy และ paste ใส่ google translate แต่ผมแปลด้วยจิตวิญญาณครับ อิอิ เวอร์ไปไหม
เพลงนี้ผมฟังครั้งแรกเมื่อตอนอยู่ประมาณ ปวช. เป็นช่วงที่เพลงประเภทเอาเธอมาถีบ เอ้ย.. อัลเทอเนทีพ Alternative กำลังดังมาก ไม่ว่าจะเป็นพลงของวง Green day หรือเช่น Gogodoll และอื่นๆ เมืองไทยตอนนั้นก็มีเยอะแยะที่ออกมาเป็นอัลเทอกับเค้า ก็เช่นวงป้าง นครินกิ่งศักดิ์ วง Loso ที่ดังโคตรๆ ในตอนนี้ แต่ตอนแรกๆผมว่ามันออกจะเสี่ยวๆ อ้าว..จริงๆนะ อย่างวง loso เนี่ยผมคิดว่าตอนแรกอ่ะ ที่ดู MV เพลงแรกคือเพลง เธอ อ่ะ ที่ร้อง "เธอ เธอ เธอ ไม่มีใครเหมือนเธอ เธอ เธอ" ผมคิดในใจเลย ดับแน่วงนี้ เสี่ยวสุดๆ แต่ก็น่ะ ดังซะงั้น ตอนนี้กลายเป็น idol ของใครๆ ไปหมดซะแล้ว กลับมาเข้าเรื่องต่อกับวง REM ที่ผมฟังเพลงเค้าที่ชื่อเพลง Man on the Moon เพลงเนี้ย ผมดู MV ครั้งแรกในรายการตอนดึกมากรายการหนึ่ง ผมฟังครั้งแรกแล้วผมก็ชอบเลย ทั้งๆ ที่ไม่รู้หรอกว่ามันแปลว่าอะไร เวลาผ่านมาเนิ่นนานมาก เพิ่งจะมานึกออกว่าอืม มารู้ความหมายของเพลงนี้กันดีกว่า แปลกันงูๆ ปลาๆ เอานี่แหละ อย่างน้อย ก็จะได้รูซะทีว่าคนเขียนเพลงที่ดีๆ แบบนี้ เค้าบอกอะไรกับเรา
เนื้อเพลง Man on the Moon
Mott the hoople and the game of life. yeah, yeah, yeah, yeah
Mott the Hoople และเกมส์แห่งชีวิต อืมๆๆๆๆ
Andy kaufman in the wrestling match. yeah, yeah, yeah, yeah
แอนดี้ คูฟแมน กับการแข่งขับมวยปล้ำ อืมๆๆๆๆ
Monopoly, twenty one, checkers, and chess. yeah, yeah, yeah, yeah
เกมส์เศรษฐี ยี่สิบเอ็ด หมากฮอส และหมากรุก อืมๆๆๆๆ
Mister fred blassie in a breakfast mess. yeah, yeah, yeah, yeah
คุณเฟรด บลาสซิล ในรายการอาหารเช้า เยเยเยเย
Let’s play twister, let’s play risk. yeah, yeah, yeah, yeah
มาเล่นกวัดแกว่ง มาเล่นกันแบบเสี่ยงๆ เยเยเยเย
See you heaven if you make the list. yeah, yeah, yeah, yeah
คุณเห็นสวรรค์แน่ถ้าคุณทำอันดับได้ เยเยเยเย
Hey andy, did you hear about this one? tell me, are you locked in the punch?
เฮ..แอนดี้ เคยได้ยินเรื่องพวกนี้ไหม บอกฉันสิ คุณถูกปิดหูปิดตาหรือเปล่า
Hey andy, are you goofing on elvis? hey baby, are we losing touch?
เฮ้..แอนดี้ นายแดนซ์แบบเอลวิสได้ไหมล่ะ หรือว่าเสียสูญไปซะแล้ว
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
ถ้ามีความเชื่อมั่น ก็สำเร็จได้ (เหมือนการส่งคนไปดวงจันทร์ ตามความเห็นของผม)
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ถ้าคุณเชื่อมั่น ไม่มีอะไรทำให้คุณกลัว จนต้องขนลุก
Moses went walking with the staff of wood. yeah, yeah, yeah, yeah
โมเซส เดินก้าวไปด้วยไม้เท้าวิเศษ เยเยเยเย
Newton got beaned by the apple good. yeah, yeah, yeah, yeah
นิวตั้น คิดออกด้วยเพียงลูกแอปเปิ้ล เยเยเยเย
Egypt was troubled by the horrible asp. yeah, yeah, yeah, yeah
อียิปต์ เจอปัญหาด้วยงูเห่าที่น่ากลัว เยเยเยเย
Mister charles darwin had the gall to ask. yeah, yeah, yeah, yeah
คุณชาลี ดาวิน ข่มขื่นที่จะถาม เยเยเยเย
Hey andy, did you hear about this one? tell me, are you locked in the punch?
เฮ้..แอนดี้ คุณเคยได้ยินเรื่องพวกนี้ไหม บอกผมสิ คุณถูกปิดหูปิดตาเหรอ
Hey andy, are you goofing on elvis? hey baby, are you having fun?
เฮ้..แอนดี้ คุณดิ้นแบบเอลวิสไหม ที่รัก คุณสนุกไหมล่ะ.
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
ถ้าคุณเชื่อมั่น คุณก็ทำสำเร็จได้
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ถ้าคุณเชื่อมั่น ไม่มีอะไรต้องกลัวจนทำให้คุณต้องขนลุก
Here’s a little agit for the never-believer. yeah, yeah, yeah, yeah
นี่ไงความ
Here’s a little ghost for the offering. yeah, yeah, yeah, yeah
นี่ไง ข้อเสนอของเหล่าผีสิง เยเยเยเย
Here’s a truck stop instead of saint peter’s. yeah, yeah, yeah, yeah
นี่ไงรถบรรทุกหยุดนิ่งที่ saint peter's เยเยเยเย
Mister andy kaufman’s gone wrestling (wrestling bears). yeah, yeah, yeah, yeah
คุณแอนดี kaufman ลงไปปล้ำแล้ว เยเยเยเย
Hey andy, did you hear about this one? tell me, are you locked in the punch?
เฮ้.. แอนดี้ คุณเคยได้ยินเรื่องพวกนี้ซักครั้งไหม บอกฉันสิ ว่าคุณเอาอยู่ไหม
Hey andy, are you goofing on elvis? hey baby, are we losing touch?
เฮ้.. แอนดี้ นายดิ้นเหมือนเอลวิสได้ไหมละ คุณเสียสูญไหม
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
ถ้าคุณเชื่อมั่น คุณก็ผ่านมันไปได้
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ถ้าคุณเชื่อมั่น ไม่มีอะไรต้องกลัว
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
If you believed they put a man on the moon, man on the moon
If you believe there’s nothing up my sleeve, then nothing is cool
ต้องบอกก่อนนะครับ ผมแปลตามที่ผมคิดและรู้สึกจากทำนองเพลงและจากคำศัพท์ ผมไม่ได้แปลแบบตรงๆ เหมือน copy และ paste ใส่ google translate แต่ผมแปลด้วยจิตวิญญาณครับ อิอิ เวอร์ไปไหม
วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วิธีทำให้ Ubuntu ใช้ Grave เปลี่ยนภาษาได้
สำหรับใครที่ใช้ ubuntu อยู่ตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะ ubuntu จะซัฟพอตภาษาไทยได้ดีมากพอตัว แต่ปัญหาหนึ่งก็คือเรื่องของการเปลี่ยนภาษา ระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ เพราะปกติค่า Default ที่ ubuntu เซทมาให้ การเปลี่ยนภาษา หรือ Keyboard Layout เนี่ย จะต้องใช้ตัว alt+shift ถึงจะเปลี่ยนภาษาได้ แต่ก็ด้วยความที่ว่ามันติดมาจากการใช้วินโดว์ เพราะปกติเราใช้เจ้าตัวปุ่มนี้ ~ หรือที่เรียกว่า grave key เนี่ยเปลี่ยนภาษาเอา แล้วจะทำยังไงละ วันนี้มีวิธีมาฝากครับ
แรกเริ่มเราต้องหาโปรแกรมมาเพิ่มก่อน คือเจ้าโปรแกรมที่ชื่อว่า xkb-data-grave.deb สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ Download กันเหนียวไว้หน่อย ถ้าลิงค์แรกโหลดไมไม่ได้ ใช้ที่นี่ก็ได้ครับ Download พอโหลดมาเสร็จก็ทำการติดตั้งได้เลยวิธีการติดตั้งก็ง่ายแสนง่ายครับ เพราะไฟล์เป็น .deb สามารถดับเบิ้ลคลิ๊กติดตั้งได้เลย หรือจะคลิ๊กขวาแล้วเลือก install ผ่านโปรแกรม Gdebi installer ได้เลยครับ ดูจากรูปเอา
พอเราทำตามการติดตั้งเสร็จทีนี้ก็มาถึงการตั้งค่า layout ของ keyboard กันแล้ว ถ้าใครยังไม่มี keyboard icon ที่ทาร์กบาร์ ก็เพิ่มได้ด้วยวิธีนี้นะครับ ให้คลิ๊กขวาที่ทาร์กบาร์ด้านบนหรือล่างก็ได้ตรงที่ว่างๆ แล้วเลือก add to panel แล้วก็เลือกเพิ่มที่ keyboard indicator ตามรูปเลยครับ พอเพิ่มเสร็จเราก็จะได้ language icon ที่ทาร์กบาร์แล้ว
มาคราวนี้เราก็มาเซท keyboard layout โดยการคลิ๊กขวาที่ language icon แล้วเลือก keyboard preferance แล้วก็เลือกที่ layout แล้วก็เลือกตามรูปเลยครับ จะมีให้ติ๊กถูก ให้เลือกที่ Grave ตามรูป แล้วก็ save ok ok ok แค่นี้ก็เสร็จเป็นอันว่าเราสามารถเปลี่ยนภาษาได้ด้วยปุ่ม Grave แล้วครับ ง่ายที่ซู๊ดดดดด
แรกเริ่มเราต้องหาโปรแกรมมาเพิ่มก่อน คือเจ้าโปรแกรมที่ชื่อว่า xkb-data-grave.deb สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ Download กันเหนียวไว้หน่อย ถ้าลิงค์แรกโหลดไมไม่ได้ ใช้ที่นี่ก็ได้ครับ Download พอโหลดมาเสร็จก็ทำการติดตั้งได้เลยวิธีการติดตั้งก็ง่ายแสนง่ายครับ เพราะไฟล์เป็น .deb สามารถดับเบิ้ลคลิ๊กติดตั้งได้เลย หรือจะคลิ๊กขวาแล้วเลือก install ผ่านโปรแกรม Gdebi installer ได้เลยครับ ดูจากรูปเอา
พอเราทำตามการติดตั้งเสร็จทีนี้ก็มาถึงการตั้งค่า layout ของ keyboard กันแล้ว ถ้าใครยังไม่มี keyboard icon ที่ทาร์กบาร์ ก็เพิ่มได้ด้วยวิธีนี้นะครับ ให้คลิ๊กขวาที่ทาร์กบาร์ด้านบนหรือล่างก็ได้ตรงที่ว่างๆ แล้วเลือก add to panel แล้วก็เลือกเพิ่มที่ keyboard indicator ตามรูปเลยครับ พอเพิ่มเสร็จเราก็จะได้ language icon ที่ทาร์กบาร์แล้ว
มาคราวนี้เราก็มาเซท keyboard layout โดยการคลิ๊กขวาที่ language icon แล้วเลือก keyboard preferance แล้วก็เลือกที่ layout แล้วก็เลือกตามรูปเลยครับ จะมีให้ติ๊กถูก ให้เลือกที่ Grave ตามรูป แล้วก็ save ok ok ok แค่นี้ก็เสร็จเป็นอันว่าเราสามารถเปลี่ยนภาษาได้ด้วยปุ่ม Grave แล้วครับ ง่ายที่ซู๊ดดดดด
Learn English From Songs - Hotel California - The Eagles
คุณชอบฟังเพลงสากลไหม? ผมชอบครับ แต่บางทีถามตัวเองบ่อยครับหรืออาจมีเพื่อนบางคนที่เค้าไม่ชอบฟังเพลงสากลถามว่า "มึงฟังทำไม ฟังรู้เรื่องเหรอ" อ้าว.. พูดงี้มันดูถูกภูมิความรู้กันนิหว่า ผมเลยทำนั่งคิด..เออ เราก็น่าจะทำหรือเขียนหัวข้อที่เอาประโยชน์จากการที่เราฟังเพลงฝรั่งมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เลยเกิดบทความนี้ขึ้นมา ผมตั้งให้ชื่อว่า Learn English From Songs สำหรับตอนนี้ ผมนำเสนอเพลงโคตรฮิตตลอดกาล อย่างเพลง Hotel California มาก่อนเลย เป็นเพลงที่ใครๆ ก็รู้จัก ไม่นับเด็กที่เพิ่งเกิดใหม่นะ เพลงดังขนาดนี้หลายๆ ไม่ใช่เคยฟังอย่างเดียว ยัง งืม ๆงัม ๆฮืมฮัม ตามเพลงได้ แต่ใครหลายๆ คนจะรู้ความหมายของเพลงนี้กันหรือเปล่าล่ะ
ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนผมยังหัดเล่นกีต้าร์ เพลง hotel california เป็นเพลงหนึ่งที่ต้องหัดเล่นให้ได้ เมื่อก่อนเล่นอย่างเดียว ร้องอย่างเดียวไม่เคยสนว่าเพลงมันพูดถึงอะไร ยอมรับแต่โดยดี เมื่อก่อนผมเคยนึกว่า เจ้าเพลง hotel california เป็นเพลงรักหวานซึ้ง พูดถึงความรักที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่ง เพราะไอ้คำประโยคที่ว่า " such a lovly place.. such a lovly face" โอ้ย...เพลงรักแน่นอน แต่ใครจะรู้ละว่า จริงๆแล้ว ความหมายของเพลง hotel california เค้าพูดถึง โรงแรมผีสิง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรักหวานซึ้งเล้ย..... อ่ะเรามาลองแปลเป็นประโยคๆ ตามเนื้อเพลงกันเลยนะครับ แปลผิดถูกยังไงก็ขออภัย ตามความรู้ความสามารถจริงๆ และก็ความกระแดะอยากจะทำ
เนื้อเพลง: Hotel California
{ตะแง่ว ตะแง่ว ตะลุงตุงโป๊ะ *เสียงดนตรีเริ่ม}
On a dark desert highway
บนทางไฮร์เวย์ในยามค่ำคืน
Cool wind in my hair
ลมเย็นๆ พัดผ่านเส้นผมปลิว
Warm smell of colitas
กลิ่นเจ้าต้น Colitas (เป็นดอกของต้นกระบองเพชร) หอมฉุยส่งกลิ่นมา
Rising up through the air
ส่งกลิ่นผ่านมากับสายลม
Up ahead in the distance
มองตรงไปทางข้างหน้า
I saw a shimmering light
ฉันเห้ฯแสงไฟสลัวๆ
My head grew heavy, and my sight grew dim
หัวหนักไปหมดและตาก็เริ่มจะมัวแล้วด้วย (ประมาณว่าเหน็ดเหนือยมาทั้งวัน)
I had to stop for the night
และฉันจะต้องพักซักคืนแล้วล่ะ
There she stood in the doorway
มีสาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า
I heard the mission bell
เสียงระฆังดังหงางมาขึ้น
And I was thinking to myself
และฉันก็คิดอยู่ในใจ
This could be Heaven or this could be Hell
นี่มันสวรรค์หรือนรกกันแน่
Then she lit up a candle
แล้วเธอก็จุดเทียน
And she showed me the way
ตามมาทางนี้สิจ๊ะพอหนุ่ม
There were voices down the corridor
มีเสียงมาจากข้างล่างทางเดิน
I thought I heard them say
ฉันว่าฉันได้ยินพวกเค้าพูดว่า
Welcome to the Hotel California
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย
Such a lovely place
สถานที่ที่สวยงาม
Such a lovely face
รูปลักษณ์ที่เลิศหรู
Plenty of room at the Hotel California
ห้องนอนเพียบเลยที่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย (ว่างจัด)
Any time of year
ไม่ว่าเวลาไหน
You can find it here
คุณจะหาได้ที่นี่แหละ
Her mind is Tiffany twisted
วิญญาณของหลอนเหมือนล่องลอยเหมือนสาว Tiffany
She's got the Mercedes Benz
นุ่มเหมือนกับขับรถเบนซ์
She's got a lot of pretty, pretty boys
เธอมีเด็กๆ น่ารักมากมาย
That she calls friends
ที่เธอเรียกว่าเพื่อน
How they dance in the courtyard
พวกเค้าเต้นรำกันในลานกว้าง
Sweet summer sweat
ในหน้าร้อนที่แสนระอุ
Some dance to remember
นักเต้นบางคนที่น่าจดจำ
Some dance to forget
นักเต้นบางคนก็ถูกลืมเลือนไป
So I called up the Captain
และฉันก็เรียกบ๋อย
Please bring me my wine
เอาไวน์มาให้ฉันหน่อยสิ
He said We haven't had that spirit here since 1969
เค้าบอกว่า... พวกเราไม่มีตัวตนตั่งแต่ปี 1969 แล้วล่ะ
And still those voices are calling from far away
แล้วทันใดนั้น เสียงหนึ่งที่ดังก้องมาจากที่ไกลๆ
Wake you up in the middle of the night
ทำให้คุณต้องตื่นขึ้นกลางดึก
Just to hear them say
แค่ได้ยินเค้าพูดว่า
Welcome to the Hotel California
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย
Such a lovely Place
สถานที่ที่สวยงาม
Such a lovely face
รูปลักษณ์ที่โออ่า
They're livin' it up at the Hotel California
พวกเราอยู่ที่นี่ โรงแรมแคลีฟอร์เนีย
What a nice surprise
ตกใจไหมล่ะ
Bring your alibies
ทำให้คุณแทบบ้าไปเลย
Mirrors on the ceiling
กระจกบนเพดาน
Pink champagne on ice
แชมเปญสีชมพูบนน้ำแข็ง
And she said
และหล่อนบอกว่า
We are all just prisoners here
พวกเราทั้งหมดก็แค่นักโทษของที่นี่
Of our own device
พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
And in the master's chambers
และในคืนวันปลอยผี
They gathered for the feast
เราจะมีงานฉลองกัน
They stab it with their steely knives
พวกเค้าพยายามใช้มีดแทงลงใน
But they just can't kill the beast
แต่พวกเค้าก็ไม่สามารถทำร้ายอะไรได้เลย (เริ่มมั่วและ)
Last thing I remember
สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้
I was running for the door
ฉันพยายามวิ่งหนีออกมาทางประตู
I had to find the passage back to the place I was before
ฉันพยายามหนีออกมาสู่ที่ของฉัน
Relax said the nightman
ใจเย็นๆ ... บุรุษลึกลักพูด
We are programed to recieve
เราได้รับคุณเข้ามาแล้ว
You can check out any time you like
คุณสามารถเช็คเอาน์ออกเมื่อไหร่ก็ได้
But you can never leave
แต่คุณไม่มีทางออกจากที่นี่ได้...ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้ก็รู้ความหมายกันแล้วจะได้ไม่เข้าใจกันผิดๆ ผมเชื่อคนหลายคนยังคิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงรักหวานซึ้ง แต่ถึงจะรู้ความหมายยังไง เพราะนี้ก็ยังเป็นเพลงหนึ่งในใจหลายๆคน เพราะท่วงทำนองที่ไพเราะนี่แหละที่มัดใจใครหลายๆคน ยิ่งท่อนโซโลนะ สุดโค่ยยยยย
ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนผมยังหัดเล่นกีต้าร์ เพลง hotel california เป็นเพลงหนึ่งที่ต้องหัดเล่นให้ได้ เมื่อก่อนเล่นอย่างเดียว ร้องอย่างเดียวไม่เคยสนว่าเพลงมันพูดถึงอะไร ยอมรับแต่โดยดี เมื่อก่อนผมเคยนึกว่า เจ้าเพลง hotel california เป็นเพลงรักหวานซึ้ง พูดถึงความรักที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่ง เพราะไอ้คำประโยคที่ว่า " such a lovly place.. such a lovly face" โอ้ย...เพลงรักแน่นอน แต่ใครจะรู้ละว่า จริงๆแล้ว ความหมายของเพลง hotel california เค้าพูดถึง โรงแรมผีสิง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรักหวานซึ้งเล้ย..... อ่ะเรามาลองแปลเป็นประโยคๆ ตามเนื้อเพลงกันเลยนะครับ แปลผิดถูกยังไงก็ขออภัย ตามความรู้ความสามารถจริงๆ และก็ความกระแดะอยากจะทำ
เนื้อเพลง: Hotel California
{ตะแง่ว ตะแง่ว ตะลุงตุงโป๊ะ *เสียงดนตรีเริ่ม}
On a dark desert highway
บนทางไฮร์เวย์ในยามค่ำคืน
Cool wind in my hair
ลมเย็นๆ พัดผ่านเส้นผมปลิว
Warm smell of colitas
กลิ่นเจ้าต้น Colitas (เป็นดอกของต้นกระบองเพชร) หอมฉุยส่งกลิ่นมา
Rising up through the air
ส่งกลิ่นผ่านมากับสายลม
Up ahead in the distance
มองตรงไปทางข้างหน้า
I saw a shimmering light
ฉันเห้ฯแสงไฟสลัวๆ
My head grew heavy, and my sight grew dim
หัวหนักไปหมดและตาก็เริ่มจะมัวแล้วด้วย (ประมาณว่าเหน็ดเหนือยมาทั้งวัน)
I had to stop for the night
และฉันจะต้องพักซักคืนแล้วล่ะ
There she stood in the doorway
มีสาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า
I heard the mission bell
เสียงระฆังดังหงางมาขึ้น
And I was thinking to myself
และฉันก็คิดอยู่ในใจ
This could be Heaven or this could be Hell
นี่มันสวรรค์หรือนรกกันแน่
Then she lit up a candle
แล้วเธอก็จุดเทียน
And she showed me the way
ตามมาทางนี้สิจ๊ะพอหนุ่ม
There were voices down the corridor
มีเสียงมาจากข้างล่างทางเดิน
I thought I heard them say
ฉันว่าฉันได้ยินพวกเค้าพูดว่า
Welcome to the Hotel California
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย
Such a lovely place
สถานที่ที่สวยงาม
Such a lovely face
รูปลักษณ์ที่เลิศหรู
Plenty of room at the Hotel California
ห้องนอนเพียบเลยที่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย (ว่างจัด)
Any time of year
ไม่ว่าเวลาไหน
You can find it here
คุณจะหาได้ที่นี่แหละ
Her mind is Tiffany twisted
วิญญาณของหลอนเหมือนล่องลอยเหมือนสาว Tiffany
She's got the Mercedes Benz
นุ่มเหมือนกับขับรถเบนซ์
She's got a lot of pretty, pretty boys
เธอมีเด็กๆ น่ารักมากมาย
That she calls friends
ที่เธอเรียกว่าเพื่อน
How they dance in the courtyard
พวกเค้าเต้นรำกันในลานกว้าง
Sweet summer sweat
ในหน้าร้อนที่แสนระอุ
Some dance to remember
นักเต้นบางคนที่น่าจดจำ
Some dance to forget
นักเต้นบางคนก็ถูกลืมเลือนไป
So I called up the Captain
และฉันก็เรียกบ๋อย
Please bring me my wine
เอาไวน์มาให้ฉันหน่อยสิ
He said We haven't had that spirit here since 1969
เค้าบอกว่า... พวกเราไม่มีตัวตนตั่งแต่ปี 1969 แล้วล่ะ
And still those voices are calling from far away
แล้วทันใดนั้น เสียงหนึ่งที่ดังก้องมาจากที่ไกลๆ
Wake you up in the middle of the night
ทำให้คุณต้องตื่นขึ้นกลางดึก
Just to hear them say
แค่ได้ยินเค้าพูดว่า
Welcome to the Hotel California
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย
Such a lovely Place
สถานที่ที่สวยงาม
Such a lovely face
รูปลักษณ์ที่โออ่า
They're livin' it up at the Hotel California
พวกเราอยู่ที่นี่ โรงแรมแคลีฟอร์เนีย
What a nice surprise
ตกใจไหมล่ะ
Bring your alibies
ทำให้คุณแทบบ้าไปเลย
Mirrors on the ceiling
กระจกบนเพดาน
Pink champagne on ice
แชมเปญสีชมพูบนน้ำแข็ง
And she said
และหล่อนบอกว่า
We are all just prisoners here
พวกเราทั้งหมดก็แค่นักโทษของที่นี่
Of our own device
พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
And in the master's chambers
และในคืนวันปลอยผี
They gathered for the feast
เราจะมีงานฉลองกัน
They stab it with their steely knives
พวกเค้าพยายามใช้มีดแทงลงใน
But they just can't kill the beast
แต่พวกเค้าก็ไม่สามารถทำร้ายอะไรได้เลย (เริ่มมั่วและ)
Last thing I remember
สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้
I was running for the door
ฉันพยายามวิ่งหนีออกมาทางประตู
I had to find the passage back to the place I was before
ฉันพยายามหนีออกมาสู่ที่ของฉัน
Relax said the nightman
ใจเย็นๆ ... บุรุษลึกลักพูด
We are programed to recieve
เราได้รับคุณเข้ามาแล้ว
You can check out any time you like
คุณสามารถเช็คเอาน์ออกเมื่อไหร่ก็ได้
But you can never leave
แต่คุณไม่มีทางออกจากที่นี่ได้...ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้ก็รู้ความหมายกันแล้วจะได้ไม่เข้าใจกันผิดๆ ผมเชื่อคนหลายคนยังคิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงรักหวานซึ้ง แต่ถึงจะรู้ความหมายยังไง เพราะนี้ก็ยังเป็นเพลงหนึ่งในใจหลายๆคน เพราะท่วงทำนองที่ไพเราะนี่แหละที่มัดใจใครหลายๆคน ยิ่งท่อนโซโลนะ สุดโค่ยยยยย
วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552
32 ธันวา ภาพยนต์ความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ใกล้จะปีใหม่แล้วถ้าคุณยังไม่รู้ว่าช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2010 หรือปี พ.ศ. 2553 นี้จะทำอะไร หรือว่างจัดจนไม่รู้ว่าจะไปไหน แนะนำให้ลองไปอุดหนุนภาพยนต์ไทยเรื่องใหม่ ที่กำลังจะเข้าฉายวันสิ้นปีพอดิบพอดี นั่นคือเรื่อง 32ธันวา ได้ยินชื่อต้องขำว่าเออ มันไม่มีนะวันที่ 32 ธันวาคม แล้วมันเกี่ยวกันยังไงก็ต้องไปลองดูสิเนอะเออว่าเรื่องราวจะสนุกแค่ไหน เพราะตอนนี้นอกจากรอบสื่อมวลชนแล้ว คนทั้งประเทศไทยคงได้ดูแต่ teaser ของเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว ลองไปฟังเรื่องย่อกัน
เรื่องนี้เล่าเรื่องของคนหลายคนเลย แต่ตัวหลักๆ ก็คือ โน๊ต (แดน) กับ โจ (โหน่ง) ซึ่งไม่ได้รู้จักอะไรกันเล้ย แต่ดันมารู้จักกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเป็นโรคประหลาดแล้วมาหาหมอรักษา การพูดคุยและเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ทั้งสองตกลงเป็นเพื่อนรักกัน โน๊ตเป็นโรคประหลาด โรคบ้าอะไรก็ไม่รู้ จำไม่ได้ว่าเค้ารักใคร และก็จำไม่ได้อีกว่าใครรักเค้าจริง ทำให้โจตกลงช่วยโน๊ตตามหารักที่ดีพอ และพอดี คนที่โน็ตอยากอยู่ด้วยและรักเค้าจริงๆ ดูจาก teaser จะเห็นว่า โน๊ตจะเป็นคนเจ้าชู้ และมีผู้หญิงหลายคน แต่คนไหนล่ะที่จะเป็นตัวจริงของเค้า ทั้งสาวแอ๊บแบ้ว สาวปากจัด และสาวที่รักแต่คนเลว แค่ฟังเรื่องย่อก็เป็นภาพยนต์ที่น่ารักน่าดูที่ซู๊ดในช่วงปลายปี อากาศเย็นๆ แบบนี้ ความรักจะเบ่งบานอีกรอบในวันที่ 32ธันวา
ภาพยนต์เรื่อง: 32ธันวา
ผู้กำกับ: กฤษ์ชัย พวงเพชร
วันเข้าฉาย: 31 ธันวาคม 2552
นักแสดง: วรเวช ดานุวงศ์, ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข, อภิญญา สกุลเจริญสุข, รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์, ผดุง ทรงแสง, สิตางศุ์ ปุณภพ, ศิรัฐ วิทยถาวรวงศ์, ฉันทนา กิตติยาพันธ์
ตัวอย่างภาพยนต์ 32ธันวา
ตัวอย่าง MV เพลงประกอบภาพยนต์ เพลง เรารักกัน
เนื้อเพลง- เรารักกัน
สมมุติว่าฉันรักเธอ...เพียงข้างเดียว
แต่เธอไม่แลเหลียวรอ...เธอคนเดียวฉันคงเสียเวลา
สมมุติว่าเธอเต็มใจให้รักมา..มันคงไม่มีค่า
บังเอิญว่าฉันไม่ใส่ใจ....
* แต่ฉันกับเธอเราเสมอเราเท่ากัน ต่างคนต่างใจตรงกันเราสอง
เป็นความต้องการในใจที่คล้องจอง...มีเราสองก็
เพียงพอ คงเป็นเพราะ คงเป็นเพราะ คงเป็นเพราะเรารักกัน
**จะขอบคุณสวรรค์ฉันท์ใด..เรารักกัน
จะมีเธอมีฉันเสมอไป..เรารักกัน
เมื่อครั้งก่อนนั้นฉันเคยแอบรักใคร..คนที่ไม่เคยให้ใจ
ฉันไม่เห็นมันจะได้ความ ครั้งนี้ได้เจอตัวเธอช่างงดงาม
กลับกลายเป็นตรงกันข้าม..เธอคือความงามที่แท้จริง
ซ้ำ */**
มันมีความหมายมากกว่าฉันรักเธอ..มั่นคงเสมอยิ่ง
กว่า เธอรักฉัน..สิ่งอัศจรรย์นั้นคือ..เรารักกัน
*/**
ซ้ำ
เรื่องนี้เล่าเรื่องของคนหลายคนเลย แต่ตัวหลักๆ ก็คือ โน๊ต (แดน) กับ โจ (โหน่ง) ซึ่งไม่ได้รู้จักอะไรกันเล้ย แต่ดันมารู้จักกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเป็นโรคประหลาดแล้วมาหาหมอรักษา การพูดคุยและเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ทั้งสองตกลงเป็นเพื่อนรักกัน โน๊ตเป็นโรคประหลาด โรคบ้าอะไรก็ไม่รู้ จำไม่ได้ว่าเค้ารักใคร และก็จำไม่ได้อีกว่าใครรักเค้าจริง ทำให้โจตกลงช่วยโน๊ตตามหารักที่ดีพอ และพอดี คนที่โน็ตอยากอยู่ด้วยและรักเค้าจริงๆ ดูจาก teaser จะเห็นว่า โน๊ตจะเป็นคนเจ้าชู้ และมีผู้หญิงหลายคน แต่คนไหนล่ะที่จะเป็นตัวจริงของเค้า ทั้งสาวแอ๊บแบ้ว สาวปากจัด และสาวที่รักแต่คนเลว แค่ฟังเรื่องย่อก็เป็นภาพยนต์ที่น่ารักน่าดูที่ซู๊ดในช่วงปลายปี อากาศเย็นๆ แบบนี้ ความรักจะเบ่งบานอีกรอบในวันที่ 32ธันวา
ภาพยนต์เรื่อง: 32ธันวา
ผู้กำกับ: กฤษ์ชัย พวงเพชร
วันเข้าฉาย: 31 ธันวาคม 2552
นักแสดง: วรเวช ดานุวงศ์, ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข, อภิญญา สกุลเจริญสุข, รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์, ผดุง ทรงแสง, สิตางศุ์ ปุณภพ, ศิรัฐ วิทยถาวรวงศ์, ฉันทนา กิตติยาพันธ์
ตัวอย่างภาพยนต์ 32ธันวา
ตัวอย่าง MV เพลงประกอบภาพยนต์ เพลง เรารักกัน
เนื้อเพลง- เรารักกัน
สมมุติว่าฉันรักเธอ...เพียงข้างเดียว
แต่เธอไม่แลเหลียวรอ...เธอคนเดียวฉันคงเสียเวลา
สมมุติว่าเธอเต็มใจให้รักมา..มันคงไม่มีค่า
บังเอิญว่าฉันไม่ใส่ใจ....
* แต่ฉันกับเธอเราเสมอเราเท่ากัน ต่างคนต่างใจตรงกันเราสอง
เป็นความต้องการในใจที่คล้องจอง...มีเราสองก็
เพียงพอ คงเป็นเพราะ คงเป็นเพราะ คงเป็นเพราะเรารักกัน
**จะขอบคุณสวรรค์ฉันท์ใด..เรารักกัน
จะมีเธอมีฉันเสมอไป..เรารักกัน
เมื่อครั้งก่อนนั้นฉันเคยแอบรักใคร..คนที่ไม่เคยให้ใจ
ฉันไม่เห็นมันจะได้ความ ครั้งนี้ได้เจอตัวเธอช่างงดงาม
กลับกลายเป็นตรงกันข้าม..เธอคือความงามที่แท้จริง
ซ้ำ */**
มันมีความหมายมากกว่าฉันรักเธอ..มั่นคงเสมอยิ่ง
กว่า เธอรักฉัน..สิ่งอัศจรรย์นั้นคือ..เรารักกัน
*/**
ซ้ำ
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ทำ template blogger ง่ายๆ ด้วย Artisteer
ใครที่กำลังพยายามทำบล๊อคหรือเวปไซด์ของตัวเองอยู่ สิ่งหนึ่งที่เป็นที่ดึงดูดใจก็คงไม่พ้นหน้าตาของเวปของเรา แต่บางทีจะออกแบบเองก็ไม่มีความรู้ หรือว่าจะไปหา Template สวยๆ ก็หายากซะเหลือเกิน ไอ้ที่ถูกใจก็ต้องซื้อแพงอีก วันนี้มีทางออก ด้วยโปรแกรม Artisteer จะทำให้คุณสามารถออกแบบหน้าเวปเพจได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าคุณจะทำเวปด้วย blogger wordpress joomla drupal คุณก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว ทุกอย่างสามารถทำได้หมดด้วยโปรแกรมเดียว Artisteer
ก่อนอื่นคุณก็ต้องมีโปรแกรม Artisteer กันก่อน สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่ พอคุณดาวน์โหลดเสร็จแตกไฟล์ออกมาจะได้ไฟล์แฟ้มที่ชื่อ Artisteer ข้างในจะมีไฟล์ให้ติดตั้งกับแฟ้มที่ชื่อ Loader อยู่ พอคุณติดตั้งเสร็จให้เอาไฟล์ในแฟ้ม Loader ไปไว้ที่แฟ้มที่ติดตั้งโปรแกรม และเอาไปไว้ที่แฟ้มที่ชื่อ bin นะครับ แล้วเวลารันโปรแกรมให้รันจากไฟล์ loader ที่เอาไปใส่ไว้ในแฟ้ม bin นะครับไม่งั้นมันจะใช้งานไม่ได้ อ่อ.. แล้วสำหรับเครื่องคอมที่ไมไ่ด้ .net framework ไว้ ก็จะไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมนี้ได้ด้วย ต้องไปโหลด .net framework ด้วยนะครับสามารถเข้าไปหาดาวน์โหลดได้ฟรีที่ Microsoft ครับ
ตัวโปรแกรมคุณสามารถกำหนดได้หมดไม่่ว่าจะเป็น layout, header, background, menubar และอื่นๆ หรือคุณจะให้โปรแกรมออกแบบให้คุณเองก็ได้ คุณสามารถเอารูปที่ตัวเองมีมาทำเป็นหัวเวป หรือจะทำเป็นแบ็คกราวน์ ก็ได้หมด ซึ่งทั้งหมดนี้ มันง่ายแสนง่ายมาก แรกๆ อาจจะงงๆ นิดหน่อย แต่พอลองทำซํกพักคุณก็จะถึงบางอ้อเอง พอออกแบบจนเป็นที่พอใจแล้ว คุณก็สามารถ export ออกมาให้เป็นใน format ที่คุณต้องการ เช่นถ้าคุณใช้ wordpress คุณก็สั่งให้โปรแกรม export ออกมาให้เป็น template สำหรับ wordpress ได้เลยครับ และที่แจ๋วสุดๆ ถ้าคุณใช้ Blogger คุณสามารถให้โปรแกรมทำการอัฟโหลดเทมเพลตขึ้นสู่บล๊อคของคุณได้เลยด้วย รูปทั้งหมดจะถูกฝากไว้ที่เวป Picasa ซึ่งเป็นเวปที่คุณทำ blogger จะมีพื้นที่เป็นของตัวเองประจำอยู่แล้วด้วย สะดวกจริงๆครับ
การทำ favicon ใน blogger
ถ้าทุกคนเคยลอง bookmakrk จะเห็นไอคอนหน้าชื่อเวปที่เรา bookmark ไว้ รูปเล็กๆ นั่นเรียกว่า favicon ครับ เป็นไฟล์รูปชนิดหนึ่งที่มีนามสกุล .ico ปกติแล้วเนี่ยเจ้า favicon เราสามารถเปลี่ยนได้เลยถ้าเราใช้พวก cms อย่างเช่น joomla , wordpress, drupal อะไรพวกนี้ แต่ถ้าเป็นบล๊อคฟรีอย่าง Blogger ละเราจะทำยังไงดีเพราะปกติแล้วถ้าเราใช้ blogger ทำเวปเราจะได้ Favicon ที่เป็นรูปตัว B สีส้มๆ ไว้เสมอ วันนี้ผมมีทริกในการเปลี่ยนและทำ favicon ใน Blogger มาฝากครับ
ขั้นตอนแรกเลย เราต้องสร้างไฟล์ .ico ก่อน ก่อนอื่นให้สร้างรูปขนาด 16x16 pixel นะครับ แล้วทำเป็นรูปตามแบบที่คุณต้องการให้เป็น favicon เลย แล้วเซฟให้เป็น .jpeg จากนั้นเราก็จะทำให้ไฟล์ดังกล่าวเป็นไฟล์ .ico ซึ่งปกติเราเปลี่ยนมันเฉยๆ ไม่ได้ครับ ให้เข้าไปที่เวปนี้เลยครับ http://tools.dynamicdrive.com/favicon/ เวปนี้จะเป็นเวปที่ไว้สำหรับทำไฟล์ภาพต่างๆ ให้เป็น .ico ให้เราฟรีๆ เลย พอทำเสร็จก็เก็บไว้ก่อนนะครับ
มาถึงอีกขั้นตอนหนึ่งคือเราต้องฝากไฟล์ .ico ที่เราสร้างขึ้นไว้ที่เวปฝากไฟล์ก่อน ซึ่งเวปฝากรูปทั่วๆ ไปมันใช้ไมไ่ด้นะครับ เพราะเค้าไม่ให้ฝากไฟล์ .ico แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย มีเวปฝากไฟล์หนึ่งแนะนำให้ฝากไฟล์นะครับ เค้าจะให้ฝากไฟล์ประเภทต่างๆได้เช่น .jpeg .gif .png รวมทั้ง .ico ด้วย เอาไฟล์ไปฝากไว้ได้เลยที่นี่ครับ http://www.pixnice.com/upload/ พอฝากเสร็จนะครับ ให้เลือก copy link ตรงๆ หรือตรง Direc link นะครับ
จากนั้นก็ให้เข้าไปที่
ขั้นตอนแรกเลย เราต้องสร้างไฟล์ .ico ก่อน ก่อนอื่นให้สร้างรูปขนาด 16x16 pixel นะครับ แล้วทำเป็นรูปตามแบบที่คุณต้องการให้เป็น favicon เลย แล้วเซฟให้เป็น .jpeg จากนั้นเราก็จะทำให้ไฟล์ดังกล่าวเป็นไฟล์ .ico ซึ่งปกติเราเปลี่ยนมันเฉยๆ ไม่ได้ครับ ให้เข้าไปที่เวปนี้เลยครับ http://tools.dynamicdrive.com/favicon/ เวปนี้จะเป็นเวปที่ไว้สำหรับทำไฟล์ภาพต่างๆ ให้เป็น .ico ให้เราฟรีๆ เลย พอทำเสร็จก็เก็บไว้ก่อนนะครับ
มาถึงอีกขั้นตอนหนึ่งคือเราต้องฝากไฟล์ .ico ที่เราสร้างขึ้นไว้ที่เวปฝากไฟล์ก่อน ซึ่งเวปฝากรูปทั่วๆ ไปมันใช้ไมไ่ด้นะครับ เพราะเค้าไม่ให้ฝากไฟล์ .ico แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย มีเวปฝากไฟล์หนึ่งแนะนำให้ฝากไฟล์นะครับ เค้าจะให้ฝากไฟล์ประเภทต่างๆได้เช่น .jpeg .gif .png รวมทั้ง .ico ด้วย เอาไฟล์ไปฝากไว้ได้เลยที่นี่ครับ http://www.pixnice.com/upload/ พอฝากเสร็จนะครับ ให้เลือก copy link ตรงๆ หรือตรง Direc link นะครับ
จากนั้นก็ให้เข้าไปที่
แล้วให้มองหาโค๊ดตัวนี้ครับ
จากนั้นให้คุณเอาโค๊ดตัวนี้ไปวางต่อจากโค๊ดข้างบนครับ ซึ่งคำว่า image url ให้คุณเอาลิงค์รูป .ico ที่ฝากเอาไว้มาใส่แทนนะครับ จากนั้นก็ save template เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับผม
หวังว่าคงมีประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจการทำเวปด้วย Blogger นะครับ
Hakuna Matata ปรัชญาทางการ์ตูนที่น่าสนใจ
จริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรหรอก วันนี้ผมเปิด youtube แล้วก็ดูพวกตัวอย่างหนังใหม่ๆ ที่อยากจะไปดูในช่วงวันหยุดปีใหม่ ก็พอดีเสริทไปมา ก็ไปเจอกับเพลงหนังการ์ตูนดังในอดีตที่ผมชอบมากเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเรื่อง Lion King เพลงในการ์ตูนเรื่องนี้ มีอยู่ตอนหนึ่งที่ร้องว่า "Hakuna Matata" ถามผมว่ารู้ไหมว่ามันแปลกว่าอะไรจริงๆ นะไอ้คำเนี้ย ผมก็ตอบตรงๆ เลยว่า ไม่รู้ว่ะ... คำอะไร ฮาคูนา มาทาทา ภาษาคนป่าอะไรหรือเปล่า ก็ดั้นด้นไปเอาคำเนื้อในเพลงนี้มานั่งแปลดูว่าเค้าพูดเรื่องอะไร
สรุปว่าเจ้าคำเนี้ยเหมือนเป็นวลีๆ หนึ่งเท่านั้น ไว้บอกว่า เฮ้ย..อย่าไปคิดอะไรมาก มันก็แค่ชีวิตวันหนึ่ง ผมกลับมานั่งคิด อืม มันก็จริงๆว่ะ คนเราจะคิดอะไรว่ะ เกิด เดี๋ยวก็แก่ ไม่ต้องแก่ยังเจ็บป่วยยังตายได้ สุดท้ายก็ตาย ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องตายอยู่ดี แล้วจะไปคิดอะไรให้มันปวดหัว แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว Hakuna Matata เป็นวลีที่ไม่ฮิตเอาซะเลย แต่ผมเห็นบ่อย เหมือนกับเป็นนามปากกาของพวกที่เป็น Cracker อาจเป็นเพราะเหมือนกับจะบอกเจ้าของลิขสิทธ์มั้งว่า เอาน่า ขอก๊อปมาใช้หน่อย อย่าคิดมาก
อืม วันนี้ผมไร้สาระมากและจากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่งไปกันเรื่อยๆ สรุปสั้นๆ ก็คือ เจ้าวลี Hakuna Matata นี่มันช่างเป็นวลีที่โดนใจจริงๆ เพลงในหนังเรื่อง lion king นี่ก็เพราะและเนื้อเรื่องก็สนุกมากๆ เป็นหนังในดวงใจเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าใครยังไม่เคยฟังเพลงนี้ ก็ลองไปหาซื้อหนังเรื่อง Lion King ภาคแรกสุดนะ ผมเน้นเลย ภาคแรกสุด Original เลยนะ ไม่ใช่ภาคต่อ ภาคสอง ภาคสาม ภาคเสริมไรพวกนี้ อย่าไปเอามาดู เสียอารมณ์จริงๆ หรือไม่ก็ลองเสริทหาดูใน youtube นี่แหละ มีทุกอย่างให้ดู
HAKUNA MATATA
ทำนองโดย Elton John
คำร้องโดย Tim Rice
ศิลปินต้นฉบับ Nathan Lane, Ernie Sabella, Jason Weaver และ Joseph Williams
เสียงร้องบททีโมน, พุมบ้า, ซิมบ้าน้อย และ ซิมบ้าหนุ่มโดย doo_wop_boy
ทำนองโดย Elton John
คำร้องโดย Tim Rice
ศิลปินต้นฉบับ Nathan Lane, Ernie Sabella, Jason Weaver และ Joseph Williams
เสียงร้องบททีโมน, พุมบ้า, ซิมบ้าน้อย และ ซิมบ้าหนุ่มโดย doo_wop_boy
Hakuna Matata!
What a wonderful phrase!
[Pumbaa]
Hakuna Matata!
Ain't no passing craze!
[Timon]
It means no worries for the rest of your days.
[Timon & Pumbaa]
It's our problem-free
Philosophy (Philosophy แปลว่า ปรัชญา)
[Timon]
Hakuna Matata!
[Young Simba]
Hakuna Matata?
[Pumbaa]
Yeah. It's our motto!
[Young Simba]
What's a motto?
[Timon]
Nothing. What's a-motto with you? (หัวเราะ)
[Pumbaa]
Those two words will solve all your problems.
[Timon]
That's right. Take Pumbaa here. Why?
When he was a young warthog...
[Pumbaa]
When I was a young warthog…
[Timon]
Very nice.
[Pumbaa]
Thanks!
[Timon]
He found his aroma lacked a certain appeal.
He could clear the savannah after every meal.
[Pumbaa]
I'm a sensitive soul though I seem thick-skinned.
And it hurt that my friends never stood downwind (ทีโมนแกล้งสะอื้น)
And oh, the shame!
[Timon]
He was ashamed!
[Pumbaa]
Thought of changin' my name.
[Timon]
Oh, what's in a name?
[Pumbaa]
And I got downhearted…
[Timon]
How did ya feel?
[Pumbaa]
Everytime that I...(ทำท่าจะผายลม)
[Timon]
Hey! Pumbaa! Not in front of the kids!
[Pumbaa]
Oh, sorry.
[Timon & Pumbaa]
Hakuna Matata!
What a wonderful phrase!
Hakuna Matata!
Ain't no passing craze!
[Young Simba]
It means no worries for the rest of your days.
[Timon]
Sing it kid!
[Young Simba, Timon & Pumbaa]
It's our problem-free
Philosophy
Hakuna Matata!
[Timon & Pumbaa] (ร้องไปเรื่อยๆ ตามจังหวะการเดินจนท้ายๆ ซิมบ้าโตเป็นหนุ่ม)
Hakuna Matata! Hakuna matata!
Hakuna Matata! Hakuna matata!
Hakuna Matata! Hakuna matata!
Hakuna Matata!
[Simba]
It means no worries for the rest of your days.
[Simba, Timon & Pumbaa]
It's our problem-free
Philosophy.
Hakuna Matata!
Hakuna Matata!
Hakuna Matata!
Hakuna Matata!
[Pumbaa]
I say "Hakuna"!
[Timon]
I say "Matata"!
[Pumbaa]
Hakuna Matata!
[Timon]
Hakuna Matata!
..tata!
อวาตาร Avatar หนังสนุกส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
ชื่อไทยคือ อวตาร ชื่อฝรั่งชื่อว่า Avatar ตอนแรกได้ยินชื่อยังงงคิดว่าคำว่า อวตารเนี่ยน่าจะเกี่ยวกับแบบพวกอินเดียๆ พรามหณ์ พระศิวะ ไรเงี้ย พอเห็นชื่อภาษาอังกฤษ สิ่งที่คิดเป็นอันดับแรกคือ รูป avatar ที่ใช้บนเวปบอร์ดต่างๆ ใช้แทนตัวเองซะงั้น ก็ต้องไปดูหนังตัวอย่าง อ๋อหนังมันเป็นแบบนี้นี่่เอง
หนังอวตาร หรือ Avatar นี่ เป็นภาพยนต์ที่เล่าเกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์โลกในยุคที่ความเจริญทางเทคโนโลยีเราก้าวหน้าไปสุดโต่งเลย เราไปท่องจักรวาลและยังไม่พ้นเรื่องของการล่าอณานิคม และก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลกที่มันอยากจะเป็นเจ้าของไปซะทุกสิ่งทุกอย่าง
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อบนดาวดวงหนึ่งมีแร่ที่มีมูลค่ามหาศาลกับมนุษย์ มนุษย์โลกจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ได้มา ทั้งทางด้านการทหารและทางด้านสัมพันธ์ไมตรี ทางด้านวิทยาศาสตร์มนุษย์ได้ทำการโคลนนิ่งชาวต่างดาว ซึ่งเป็นเจ้าของและอาศัยอยู่ในดาวดวงนี้ และใช้วิทยาการที่ล้ำยุค ทำให้คนสามารถนำจิตและสมองของตัวเองเข้าสิงสุ่ร่างที่โคลนนิ่งนี้ได้ และสามารถบังคับได้ดั่งกับเป็นตัวของตัวเอง พระเอกของเราเป็นทหารผ่านศึกที่มีร่างกายพิการที่ขาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องเข้าบังคับร่างโคลน หรือที่เรียกว่า avatar นั่นเอง เรื่องราวต่าง ๆจึงได้เกิดขึ้น เมื่อพระเอกได้เข้าไปสัมผัสความเป็นอยู่ของชาวดาวดวงนี้ ความรู้สึกต่างๆ ที่เปลี่ยนไป และก่อให้เกิดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ ระหว่างเผ่าพันธุ์ที่รักชีวิตแบบธรรมชาติ และมนุษย์ที่เป็นผู้ที่ิคิดแต่ทำลาย
ไปดูมาแล้ว ..สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ขอบอกเลยว่า ห้ามพลาดเด็ดขาด สำหรับผม ถือเป็นหนังที่สนุกนะ ถึงจะไม่ที่สุดและทำให้ผมอึ้ง ทึ่ง เสียว ได้ แต่สิ่งที่คุณจะได้จากหนังเรื่องนี้คือ ภาพเอฟเฟคอลังการงานสร้าง อภิมหาการลงทุน และคุณจะได้ภพกับจินตนการที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ผมว่าแค่นี้ก็คุ้มกับหนังเรื่องนี้แล้วครับ แต่คุณอาจจะเบื่อๆ ในช่วงแรกๆ เพราะช่วงแรกเล่าเรื่องได้อืดอาดมาก แต่ช่วงหลังของหนังคุณจะไม่กระพริบตาแม้แต่ช๊อตเดียวแน่นอนครับ ฟันธง
ชื่ออังกฤษ Avatar
ประเภทหนัง Sci-Fi/Fantasy/Action
ผู้กำกับ James Cameron
วันที่เข้าฉาย 17 December 2009
นักแสดง Sam Worthington, Zoë Saldaña, Sigourney Weaver, Michelle Rodriguez, Stephen Lang, Joel David Moore, Giovanni Ribisi, CCH Pounder, Dileep Rao, Matt Gerald, Laz Alonso, Peter Mensah, Wes Studi
เว็บไซต์ http://www.avatarmovie.com/
วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ตั้งโจยอี๋ วันนี้ วันไหว้ขนมบัวลอย หรือขนมอี๋
วันนี้ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2552 เป็นวันที่คนไทยเชื้อสายจีนจะไหว้ขนมอี๋กัน หรือขนมบัวลอย แต่เดิมวัฒนธรรมนี้เกิดขึ้นในประเทศจีน จะไหว้ขนมแบบนี้กันเพราะในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น พืชพรรณต่างๆ ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ชาวจีนไหว้เพื่อบรวงสรวงเทพเจ้าให้ปกปักษ์รักษาพืชพรรณต่างๆ ให้อยู่อย่างดี และเจริญงอกงาม
อีกทั้งในช่วงฤดูนี้เป็นช่วงฤดูหนาวเย็น การกินอาหารที่เป็นแป้งเช่นแป้งข้าวเหนียวและข้าวจ้าว จะทำให้อยู่ท้อง ในเวลาค่ำคืนซึ่งอากาศหนาวเย็นมากจะทำให้ไม่รู้สึกหิว แล้วอีกอย่างที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นกุศโลบายของชาวโบราณคือ คนจีนสมัยก่อนนิยมทำงานกันเป็นแบบเครือญาติ ที่เรียกว่า "กงสี" การไหว้ขนมอี๋ จะต้องมีการเตรียมข้าวเหนียวนำมาบดเป็นแป้ง และปั้นให้เป็นลูกๆ ซึ่งต้องใช้ความสมัครสมนานสามัคคี ทำให้พี่น้องในเครือญาติได้มีการร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้และทำงานร่วมกันต่อไปให้เจริญรุ่งเรือง นับเป็นประเพณีที่ดี นอกจากจะได้กินขนมอี๋ที่แสนอร่อย ไม่ว่าจะทำแบบจีนแท้ๆ แบบเป็นน้ำเชื่อมใสๆ หรือจะเป็นแบบไทย ๆที่เป็นน้ำกระทิออกเป็นบัวลอย ก็แสนจะอร่อยไปหมด ประเพณีดีๆ แบบนี้เราก็ควรจะรักษามันไว้ให้อยู่ชั่วลูกชั่วหลานสืบต่อกันไปนะครับ
วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ubuntu prompt edition 9.11 ของฟรีและดีก็มีในโลก
ตอนนี้ก็ได้เวลาออกเวอร์ชั่นใหม่แล้วสำหรับ ubuntu ซึ่งจริงๆ แล้วก็ออกมาได้นานซักระยะหนึ่งแล้วล่ะ แต่ว่าผมก็เพิ่งจะได้ทดลองใช้ โดยปกติผมก็ยังต้องใช้อยู่ทั้งสองระบบคือทั้ง วินโดว์เอง แล้วก็ลีนุกซ์ด้วย แต่ส่วนใหญ่จะใช้บนลีนุกซ์ซะมากกว่า เป็นเพราะขี้เกียจกังวลเรื่องของไวรัสและทุกอย่างมันก็ฟรีด้วย อยากจะใช้อย่างไรก็ดีไปหมด เพียงแต่ว่า ในตอนแรกที่ ubuntu ออกมานั้นจะเป็นของทาง official เลย ยังจะไม่มีการปรัปแต่งเพิ่มเติมโปรแกรมอะไรเข้าไปมากนักทำให้มือใหม่อย่างผม และคุณๆ ที่ไม่เคยใช้กันต้องลำบากในการต้องมานั่งปรัปแต่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวอักษร การลงโปรแกรม และเรื่องของการเซทค่าต่างๆ ให้มันเหมาะกับมือใหม่ๆและใช้แล้วรู้สึกสะดวกเหมือนกับตอนใช้วินโดว์
ก็เลยจำเป็นที่จะต้องรอเวอร์ชั่นของคุณ สมเจตน์ ทุกครั้งไป ซึ่งคุณสมเจตน์จะเอา ubuntu เวอร์ชั่นที่เพิ่งออกมาใหม่ๆ มาโมดิฟายใหม่ ลงโปรแกรมและปรัปแต่งสิ่งต่างๆ ให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม รูปแบบตัวอักษร หน้าตาสวยงามต่างๆ และที่สำคัญ มันสามารถดูหนังฟังเพลงได้เลย โดยไม่ต้องไปอัฟเดทอะไรอีกแล้ว ง่ายและสะดวกแบบนี้ ไม่ใช้ได้ยังไงครับ และอีกทั้งยังฟรี และไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ใครด้วย ถึงแม้ว่าตัวผมเองตอนนี้ก็ยังต้องใช้วินโดว์เวอร์ชั่น พันทิป อยู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามจะไม่ใช้อยุ่ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เช่นการเล่นเกมส์ หรือเกี่ยวกับโปรแกรมที่ไม่สามารถใช้บนลีนุกซ์ได้ ผมก็จะใช้ ubuntu เป็นหลักเสมอครับ ยังไงสำหรับใครที่ยังไม่เคยลองเจ้า ubuntu ตัวนี้ที่ชื่อ prompt edition ของคุณ สมเจตน์ ขอแนะนำให้ทดลองใช้ได้เลยครับ แล้วคุณจะติดใจในความเป็นลีนุกซ์ที่ชื่อ ubuntu ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาอ่านได้ที่ลิงค์นี้นะครับhttp://forum.ubuntuclub.com/forum/topic,12168.0.html
และท่านสามารถดาวน์โหลดเจ้า ubuntu เวอร์ชั่น Prompt Edition 9.11 Karmic ได้ที่นี่ครับ
แหล่ง "สามัคคีชุมนุม" (bittorent) http://t.clubdistro.com/ ขอบคุณอาจารย์วิทยา มาร่วม Tracker ด้วยครับ (แรงได้ใจเลย) ...
http://www.thaitux.info/files/bt/ubuntu_9.11_prompt_edition.iso.torrentขอบคุณ nytes.net และ คุณ sourcode น้องมนัสวิน ที่ช่วยดำเนินการhttp://mirror.nytes.net:81/linux/clubuntu/community/prompt/9.11/ขอบคุณ มหาลัยเกษตรศาสตร์ (KU Mirror) และ เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการให้(ไม่ทราบนาม) ...
http://mirror1.ku.ac.th/ubuntuclub/prompt/9.11/ขอบคุณ มหาลัยสงขลานครินทร์ และ คุณสงกรานต์ที่ดำเนินการให้ ...
ftp://ftp.psu.ac.th/pub/ubuntu/ขอบคุณ aphorist ที่ร่วมสนับสนุนพื้นที่ดาวน์โหลด ...
http://www.pasworld.co.th:81/ubuntu/สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านอินเตอร์เน็ต หรือ ต้องการความแน่นอนของ ISO ตอนนี้ ShopIT ก็มีบริการจำหน่าย PE9.11 แล้วเช่นกัน ...
เกษตรปราณีต ชีวิตพอเพียงที่ผมโคตรอยากเป็น
ผมได้ดูโฆษณาหนึ่งนานแล้วล่ะครับ เป็นโฆษณาที่ผมชอบมาก ดูแล้วผมรู้สึกว่านี่แหละชีวิตของคนไทย ผมเคยนั่งคิดว่า ประเทศไทยทำไมถึงเป็นแบบนี้ แล้วก็พอจะได้บทสรุปกับตัวเองตามความคิดของผม ประเทศเราเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรม กสิกรรม และอุตสาหกรรมทางการเกษตร หัวใจหลักของบ้านเราคือเกษตรจริงๆครับ ทั้งแผ่นดินเรา มีดินที่มีคุณภาพ น้ำท่าบริบุรณ์ สามารถปลูกพืชได้แทบทุกชนิด ผลไม้ของบ้านเราก็อร่อยกว่าชาติไหนๆ ผลผลิตทางการเกษตรเราก็เป็นที่ยอมรับ ข้าวในนาของเราก็สุดยอด โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่แม้แต่ชาวต่างชาติยังต้องยอมรับในความอร่อยของมัน
รัฐบาลผู้นำประเทศบางทีผมในความคิดผมคือว่า เหมือนกับเดินทางผิดนะ จริงๆแล้วเราควรจะเอาใจใส่และบริหารเรื่องของเกษรบ้านเราเป็นหลัก ไม่ใช่มัวแต่ไปวิ่งตามความเจริญทางวัตถุเหมือนชาติตะวันตก ทั้งวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ เราก็ต่างกับเค้า คุณสังเกตุไหมทำไมเกษตรกรบ้านเรายากจน ผมก็ยังสงสัยเหมือนกันครับ ทั้งๆที่ผลิตผลจากเกษตรกรคืออาหารของคนไทยทั้งประเทศ มันเป็นอาชีพที่สำคัญมากๆ และจำเป็นจริงๆ ในขณะที่ต่างชาติ ผมยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งผมเคยไปสัมผัสมาแล้ว ผมบอกได้เลยครับว่า เกษตรกรบ้านเค้าเป็นคนรวยครับ มีกินมีใช้ มีเงินทองมากกว่าคนทำงานในเมืองเสียอีก ทุกวันนี้ทิศทางของประเทศเรากำลังเดินไปทางที่ผิดทางอยู่หรือเปล่า ผมเคยคิดและผมว่ามันเป็นไปได้ ถ้าบ้านเราเอาใจใส่และมาเน้นส่งเสริมในเรื่องอุตสาหกรรมการเกษตร และกสิกรรม บ้านเราจะเป็นแหล่งอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละครับ ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรมของมัน ชาติเราก็คงมีกรรม ถึงได้เป็นแบบนี้
กลับมาเรื่องวีดีโอของ ส ส ส ที่กล่าวถึงเรื่องเกษตรปราณีตกัน ผมชอบโฆษณานี้มาก และผมเคยคิดไว้เลยว่าบั้นปลายชีวิตของผมอยากจะเป็นเหมือนในโฆษณานี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้ แต่ก็คิดๆ ไว้และวางแผนไว้เหมือนกัน อย่างน้อยๆ ก็อยากให้คนในประเทศคิดแบบโฆษณานี้กันเยอะๆ เราจะได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเราเองได้ โดยไม่ต้องง้อบริษัทจากต่างชาติที่เข้ามาจ้างแรงงานของเรา และภาคภูมิใจในภูมิปัญญาแบบธรรมดาของคนไทย ที่ไม่ธรรมดาเอาซะเลยครับ เพราะมันยอดเยี่ยมจริงๆ
รัฐบาลผู้นำประเทศบางทีผมในความคิดผมคือว่า เหมือนกับเดินทางผิดนะ จริงๆแล้วเราควรจะเอาใจใส่และบริหารเรื่องของเกษรบ้านเราเป็นหลัก ไม่ใช่มัวแต่ไปวิ่งตามความเจริญทางวัตถุเหมือนชาติตะวันตก ทั้งวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ เราก็ต่างกับเค้า คุณสังเกตุไหมทำไมเกษตรกรบ้านเรายากจน ผมก็ยังสงสัยเหมือนกันครับ ทั้งๆที่ผลิตผลจากเกษตรกรคืออาหารของคนไทยทั้งประเทศ มันเป็นอาชีพที่สำคัญมากๆ และจำเป็นจริงๆ ในขณะที่ต่างชาติ ผมยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งผมเคยไปสัมผัสมาแล้ว ผมบอกได้เลยครับว่า เกษตรกรบ้านเค้าเป็นคนรวยครับ มีกินมีใช้ มีเงินทองมากกว่าคนทำงานในเมืองเสียอีก ทุกวันนี้ทิศทางของประเทศเรากำลังเดินไปทางที่ผิดทางอยู่หรือเปล่า ผมเคยคิดและผมว่ามันเป็นไปได้ ถ้าบ้านเราเอาใจใส่และมาเน้นส่งเสริมในเรื่องอุตสาหกรรมการเกษตร และกสิกรรม บ้านเราจะเป็นแหล่งอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละครับ ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรมของมัน ชาติเราก็คงมีกรรม ถึงได้เป็นแบบนี้
กลับมาเรื่องวีดีโอของ ส ส ส ที่กล่าวถึงเรื่องเกษตรปราณีตกัน ผมชอบโฆษณานี้มาก และผมเคยคิดไว้เลยว่าบั้นปลายชีวิตของผมอยากจะเป็นเหมือนในโฆษณานี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้ แต่ก็คิดๆ ไว้และวางแผนไว้เหมือนกัน อย่างน้อยๆ ก็อยากให้คนในประเทศคิดแบบโฆษณานี้กันเยอะๆ เราจะได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเราเองได้ โดยไม่ต้องง้อบริษัทจากต่างชาติที่เข้ามาจ้างแรงงานของเรา และภาคภูมิใจในภูมิปัญญาแบบธรรมดาของคนไทย ที่ไม่ธรรมดาเอาซะเลยครับ เพราะมันยอดเยี่ยมจริงๆ
วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552
แจก rom Zelda ครบทุกภาคครับ
ไม่ได้สนับสนุนให้เล่นเกมส์แผ่นก๊อป หรือเล่นเกมส์ผ่าน rom emulator นะครับ แต่เพราะว่ามันเก่าแล้ว การที่จะหามาเล่นกับเครื่องเล่นเก่าๆ ก็คงจะยากพอสมควร ถ้ารักและชอบยังไงก็อย่าลืมช่วยอุดหนุนของแท้ๆ กันด้วย รอมที่จะลงไว้จะเป็นเกมส์ zelda ทุกภาคบนเครื่องเก่า คือมีภาค
1. The Legend of zelda ภาคแรกบน FC download
2. The Legend of Zelda : The Adventure of Link ภาคที่สองบน เครื่อง FC เหมือนกัน download
3. ภาคบน GB คือภาค Link's Awakening download
4. ภาคบน SFC ภาค Link to the Past download
5. ภาคบน GBC สองภาคมีภาค Oracle of AGE download
6. ภาคบน GBC Oracle of Seasons download
7. ภาคบน GBA คือภาค Minish Cap download
8. ภาคบน N64 คือภาค Ocarina of time download
9. ภาคบน N64 ภาค Majora's Mask download
10. ภาคบน N64 ภาค Ocarina of time - Master Quest download
11. ภาคบน NDS ภาค Phantom Hourglass download
12 ภาคบน NDS ภาค Spirit Tracks download
ส่วนภาคเสริมอื่นที่ทำเพิ่มขึ้นมาเช่นภาคที่ remake ใหม่บน GBA เช่นภาค link to the past จะไม่มีนะครับ เพราะอยากให้เล่นตรงกับภาคบนเครื่องนั้นๆ และภาคที่ใหญ่เกินความสามารถผมเช่นภาค wind waker และ Twillight Princess ก็ไม่สามารถครับ อ่อ ยังมีภาค four sword ด้วยเด้อ ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าสามารถหามาเพิ่มได้ ก็จะมาอัฟเดทให้เพิ่มเติมนะครับ ตอนนี้เอาไปแค่นี้ก็เล่นกันย๊าวยาวแล้วล่ะ
ส่วนใครที่มีปัญหาในการเซทการเล่นรอมกับ emulator ภาค ocarina of time กับ majora's mask ก็สามารถเข้าไปดูวิธีการเซทจอยเกมส์บน pc ด้วยจอยแบบ ps1 ได้ที่นี่ครับ กดเบาๆ
1. The Legend of zelda ภาคแรกบน FC download
2. The Legend of Zelda : The Adventure of Link ภาคที่สองบน เครื่อง FC เหมือนกัน download
3. ภาคบน GB คือภาค Link's Awakening download
4. ภาคบน SFC ภาค Link to the Past download
5. ภาคบน GBC สองภาคมีภาค Oracle of AGE download
6. ภาคบน GBC Oracle of Seasons download
7. ภาคบน GBA คือภาค Minish Cap download
8. ภาคบน N64 คือภาค Ocarina of time download
9. ภาคบน N64 ภาค Majora's Mask download
10. ภาคบน N64 ภาค Ocarina of time - Master Quest download
11. ภาคบน NDS ภาค Phantom Hourglass download
12 ภาคบน NDS ภาค Spirit Tracks download
ส่วนภาคเสริมอื่นที่ทำเพิ่มขึ้นมาเช่นภาคที่ remake ใหม่บน GBA เช่นภาค link to the past จะไม่มีนะครับ เพราะอยากให้เล่นตรงกับภาคบนเครื่องนั้นๆ และภาคที่ใหญ่เกินความสามารถผมเช่นภาค wind waker และ Twillight Princess ก็ไม่สามารถครับ อ่อ ยังมีภาค four sword ด้วยเด้อ ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าสามารถหามาเพิ่มได้ ก็จะมาอัฟเดทให้เพิ่มเติมนะครับ ตอนนี้เอาไปแค่นี้ก็เล่นกันย๊าวยาวแล้วล่ะ
ส่วนใครที่มีปัญหาในการเซทการเล่นรอมกับ emulator ภาค ocarina of time กับ majora's mask ก็สามารถเข้าไปดูวิธีการเซทจอยเกมส์บน pc ด้วยจอยแบบ ps1 ได้ที่นี่ครับ กดเบาๆ
ป้ายกำกับ:
emulator,
rom,
rom download,
rom zelda,
zelda rom
Law abiding citizen หนังสนุกส่งท้าย 2009
ช่วงนี้ดูหนังเยอะหน่อยครับเพราะไม่รู้จะทำอะไร ก็ไปหาหนังใหม่บ้างเก่าบ้างมาดู วันนี้พี่ชายเดินเอาแผ่นหนัง ที่โหลดมาจากอินเตอร์เน็ตมาให้ดู บอกสนุกมาก ตอนแรกดูชื่อก็เริ่มแหวะในใจและว่า หนังไรฟ่ะ ไม่เห็นจะน่าดู แต่พอได้ิยินว่าพระเอกที่เล่นเรื่อง 300 เล่นก็เออ ดูก็ดูว่ะ เพราะชอบพระเอกคนนี้ เปิดเรื่องมาเฉยๆมาก เฉยได้แค่ไม่ถึงห้านาทีครับ หลังจากนั้น เรื่องทั้งเรื่องสนุกจริงๆ แทบจะไม่มีตอนไหนเลยที่ทำให้รู้เบื่อหน่าย เป็นหนังส่งท้ายปีเก่าที่สนุกจริงๆ
เนื้อเรื่องเล่าถึงพระเอกที่ชื่อไคล์ เชลตั้นเป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งมาก ที่ถูกโจรสองคนบุกเข้ามาทำร้ายและฆ่าลูกสาวคนเดียวกับเมียตายคาบ้าน แต่ทนายของเค้าที่ชื่อ นิคไรท์ ได้เหมือนกับช่วยให้คนร้ายยอมรับสารภาพเพื่อแลกกับรูปคดีให้ง่ายขึ้น ทั้งๆ ที่ความรู้สึกของพระเอกคือต้องการให้คนร้ายที่ทำร้ายครอบครัวเค้าควรจะได้รับการลงโทษที่สาสม แต่กลับว่า เจ้าผู้ร้ายติดคุกเพียงแค่สามปี ความแค้นในอกของคนเป็นพ่อและสามีที่รักครอบครัวจึงระเบิดออกมาเป็นความแค้นและสิบปีให้หลัง เค้าก็วางแผนทุกอย่างไว้อย่างแยบยล จนทำให้ทนายเก่าของเค้าต้องหัวปั่น เรื่องราวของภาพยนต์จะเป็นอย่างไร ก็ลองไปหามาดูกันนะครับ รับรองว่าเรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่ๆ สนุกจริงๆ อ่อ คำว่า Law Abiding Citizen ผมคิดว่าถ้าเป็นชื่อไทยน่าจะแปลตรงๆว่า กฏหมายถาวรของพลเรือน แปลแบบนี้ ผมว่ามันยาวไปนะ คำว่า Abiding แปลว่า สืบเนืองมา สืบต่อๆ กัน มั่นคง ถาวร ตลอดกาล ใครคิดชื่อดีๆ ออกก็ลองแปลชื่อหนังกันเองนะครับ เ็ป็นเกร็ดคำศัพท์ภาษาอังกฤษนิดหน่อยและกัน
เนื้อเรื่องเล่าถึงพระเอกที่ชื่อไคล์ เชลตั้นเป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งมาก ที่ถูกโจรสองคนบุกเข้ามาทำร้ายและฆ่าลูกสาวคนเดียวกับเมียตายคาบ้าน แต่ทนายของเค้าที่ชื่อ นิคไรท์ ได้เหมือนกับช่วยให้คนร้ายยอมรับสารภาพเพื่อแลกกับรูปคดีให้ง่ายขึ้น ทั้งๆ ที่ความรู้สึกของพระเอกคือต้องการให้คนร้ายที่ทำร้ายครอบครัวเค้าควรจะได้รับการลงโทษที่สาสม แต่กลับว่า เจ้าผู้ร้ายติดคุกเพียงแค่สามปี ความแค้นในอกของคนเป็นพ่อและสามีที่รักครอบครัวจึงระเบิดออกมาเป็นความแค้นและสิบปีให้หลัง เค้าก็วางแผนทุกอย่างไว้อย่างแยบยล จนทำให้ทนายเก่าของเค้าต้องหัวปั่น เรื่องราวของภาพยนต์จะเป็นอย่างไร ก็ลองไปหามาดูกันนะครับ รับรองว่าเรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่ๆ สนุกจริงๆ อ่อ คำว่า Law Abiding Citizen ผมคิดว่าถ้าเป็นชื่อไทยน่าจะแปลตรงๆว่า กฏหมายถาวรของพลเรือน แปลแบบนี้ ผมว่ามันยาวไปนะ คำว่า Abiding แปลว่า สืบเนืองมา สืบต่อๆ กัน มั่นคง ถาวร ตลอดกาล ใครคิดชื่อดีๆ ออกก็ลองแปลชื่อหนังกันเองนะครับ เ็ป็นเกร็ดคำศัพท์ภาษาอังกฤษนิดหน่อยและกัน
ตัวอย่างหนัง Law Abiding Citizen
Street Art ศิลปะบนท้องถนน ที่เหลือเชื่อ
ไปเจอมาจากเวปหนึ่ง ชอบมาก คนวาดเก่งเหลือเชื่อ อยากให้คนไทยทำได้แบบนี้บ้างจัง สวยมากๆ ครับและน่าทึ่งมากๆ ลองไปดูกันนะครับ คำเตือน ภาพเยอะมาก ใครใช้เน็ตช้าๆ ระวังด้วยแหละ อิอิ แต่ขอบอกว่าคุ้มกับการรอคอยครับ ภาพสวยจริงๆและน่าทึงที่ซู๊ดดดดด
ป้ายกำกับ:
ภาพวาด,
ภาพวาดบนถนน,
ภาพสามมิติ,
ศิลปะ,
art,
street art
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)